วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2567

prompt 10-67

 


จงสร้างฟอร์มแบบทดสอบ ที่ใช้ทำใน Google Form โดยมีช่องกรอก ชื่อ - นามสกุล นักเรียน ตามมาตรฐานโรงเรียน เกี่ยวกับ ความรู้พื้นฐานระบบนิวแมติกส์ และไฮดรอลิกส์ ในรูปแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 5 ข้อ พร้อมเฉลยข้อที่ถูกต้องเป็นตัวหนา ความยากระดับ ปานกลาง สำหรับนักเรียนระดับ ปวช.3


จงสร้างฟอร์มแบบสอบถาม ที่ใช้ทำใน Google Form สำหรับการสำรวจความคิดเห็น ของผู้เข้าอบรมโครงการพัฒนาครู ด้านการใช้ AI ประกอบการสอน โดยมีส่วนประกอบดังนี้
1.ข้อมูลพื้นฐานสำหรับผู้ตอบแบบสอบถาม นำเสนอในรูปแบบเลือกตอบ (จำเป็นต้องตอบ)
2.สร้างแบบสอบถามข้อมูลการจัดอบรม สัมนา เรื่องโครงการตามรอยพระยุคลบาท สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี แสดงผลเป็นตาราง จำนวน 4 หัวข้อหลัก และ 5 หัวข้อย่อย โดยให้คะแนนในระดับ 1-5 (1 = น้อยที่สุด, 5 = มากที่สุด) ,(จำเป็นต้องตอบ)
3.ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม จากผูู้ตอบแบบสอบถาม (ไม่จำเป็นต้องตอบ)


จงสร้างฟอร์มการลงทะเบียน ที่ใช้ทำใน Google Form โดยมีช่องกรอก ชื่อ - นามสกุล นักเรียน ตามมาตรฐานโรงเรียน สำหรับสมัครเข้าอบรมสัมนาโครงการพัฒนาครู ด้านการใช้ AI ประกอบการสอน จัดอบรมโดย วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกอุดรธานี


เลือกปลั๊กอิน Form Builder Plus for GPT

เขียน prompt

จงสร้างแบบทดสอบใน Google Form

(คำลอกข้อสอบมาวาง อย่าลืมลบ ห้ว ท้าย ออก)





วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

สายไฟฟ้า

 ประเภทของสายไฟฟ้า

สายไฟฟ้าแบ่งออกเป็น 2 จำพวกคือสายไฟแรงดันต่ำ และ สายไฟแรงดันสูง

สายไฟฟ้าแรงดันต่ำ (Low Voltage Power Cable)
เป็นสายไฟที่ใช้กับแรงดันไม่เกิน 750 V. เป็นสายหุ้มฉนวน ทำด้วยทองแดงหรืออลูมิเนียม โดยทั่วไปเป็นสายทองแดงสายขนาดเล็กจะเป็นตัวนำเดี่ยว แต่สายขนาดใหญ่เป็นตัวนำตีเกลียว วัสดุฉนวนที่ใช้กับสายแรงดันต่ำคือ Polyvinyl Chloride (PVC) และ Cross-Linked Polyethylene (XLPE)

สาย THW
สายไฟฟ้าตาม มอก.11-2531 ที่ในท้องตลาดนิยมเรียกว่า ทีเอชดับเบิลยู (THW) เป็นสาย ไฟฟ้าชนิดทนแรงดัน 750 V เป็นสายเดี่ยว นิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะใน โรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากใช้ในวงจรไฟฟ้า 3 phase ได้ ปกติจะเดินร้อยในท่อร้อยสาย ชื่อ THW เป็นชื่อตามมาตรฐานอเมริกัน ซึ่งเป็นสายชนิดทนแรงดัน 600 V อุณหภูมิใช้งานที่ 75 องศาเซลเซียส แต่ในประเทศไทยนิยม เรียกสายที่ผลิตตาม มอก. 11 -2531 ว่า สาย THW เนื่องจากมีโครงสร้างคล้ายกันและรู้กันทั่วไปในท้องตลาด
การใช้งาน
-เดินลอย ต้องยึดด้วยวัสดุฉนวน (insulator)
-เดินในช่องเดินสาย ในสถานที่แห้ง
-ห้ามเดินฝังดินโดยตรง

สาย VAF
สายไฟตาม มอก.11-2531 ที่ตามท้องตลาดเรียกว่า สายชนิด วีเอเอฟ (VAF) เป็นสายที่นิยมใช้กันมากตามบ้านในประเทศไทย เป็นสายชนิด ทนแรงดัน 300 V มีทั้งชนิดที่เป็นสายเดี่ยว สายคู่ และที่มีสายดินอยู่ด้วย มีชนิด 2 แกน หรือ 3 แกน เป็นสายแบน ตัวนำนอกจากจะมีฉนวนหุ้ม แล้วยังมีเปลือกหุ้มอีกชั้นหนึ่ง สายคู่จะนิยมรัดด้วยเข็มขัดรัดสาย(Clip) ใช้ในบ้านอยู่อาศัยทั่วไป สายชนิดนี้ห้ามใช้ในวงจร 3 phase ที่มีแรงดัน 380 V (ในระบบ 3 phase แต่แยกไปใช้งานเป็นแบบ 1 phase แรงดัน 220 V. จะใช้ได้)
การใช้งาน
-เดินเกาะผนัง
-เดินในช่องเดินสาย ในสถานที่แห้ง
-ห้ามเดินฝังดินโดยตรง

สาย VCT
สายไฟฟ้าตาม มอก.11 - 2531 ตามท้องตลาดเรียกว่าสาย วีซีที (VCT) เป็นสายกลมมี ทั้งชนิดหนึ่งแกน 2 แกน 3แกนและ 4 แกนทนแรงดันที่ 750 V. มีฉนวนและเปลือกเช่นกัน มีข้อพิเศษกว่าก็คือตัวนำจะประกอบไปด้วย ทองแดงฝอยเส้นเล็ก ๆ ทำให้มีข้อดีคือ อ่อนตัวและทนต่อสภาพการสั่นสะเทือนได้ดี เหมาะที่จะใช้เป็นสายเดินเข้าเครื่องจักรที่มีการสั่นสะเทือนขณะใช้งาน สายชนิดนี้ ใช้งานได้ทั่วไปเหมือนสายชนิด NYY สาย VCT มีหลายแบบตามรูปทรงโดยแบ่งได้ทั้งแบบ VCT - GRD ซึ่งมี 2 แกน 3 แกนและ 4 แกนและมีสายดินเดินร่วมไปด้วยอีกเส้นหนึ่งเพื่อให้เหมาะสำหรับใช้เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องต่อลงดิน
การใช้งาน
-ใช้งานทั่วไป เดินร้อยท่อฝั่งดิน

สาย NYY
สายไฟฟ้าตาม มอก.11-2531 ตามท้องตลาดนิยมเรียกว่าสายชนิด เอ็นวายวาย (NYY) มีทั้งชนิดแกนเดียว และหลายแกนสายหลายแกน ก็จะเป็นสายชนิดกลมเช่นกัน สายชนิดนี้ทนแรงดันที่ 750 V. นิยมใช้อย่างกว้างขวางเช่นกัน เนื่องจากว่ามี ความทนต่อสภาพแวดล้อม เพราะมีเปลือกหุ้มอีกชั้นหนึ่ง บางทีเรียกว่าเป็นสายฉนวน 3 ชั้น ความจริงแล้วสายชนิดนี้มีฉนวนชั้นเดียว อีกสองชั้นที่เหลือเป็นเปลือกเปลือกชั้นในทำหน้าที่เป็นแบบ (Form) ให้สายแต่ละแกนที่ตีเกลียวเข้าด้วยกันมีลักษณะกลม แล้วจึงมีเปลือกนอกหุ้ม อีกชั้นหนึ่งทำหน้าที่ป้องกันความเสียหายทางกายภาพ
การใช้งาน
-ใช้งานทั่วไป เดินร้อยท่อฝังดิน
-เดินฝังโดยตรง

 

 

สายไฟฟ้าแรงดันสูง (High Voltage Power Cable)
เป็นสายตีเกลียวมีขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ สายเปลือย และสายหุ้มฉนวน

สายเปลือย
สายอลูมิเนียมตีเกลียวเปลือย (AAC)
สายอลูมิเนียมผสม (AAAC)
สายอลูมิเนียมแกนเหล็ก (ACSR)

สายหุ้มฉนวน
สาย Partial Insulated Cable (PIC)
สาย Space Aerial Cable (SAC)
สาย Preassembly Aerial Cable
สาย Cross-linked Polyethylene (XLPE)

สายไฟฟ้าที่ผลิตตามมาตรฐานอื่น
หมายถึง สายไฟฟ้าที่ไม่ได้ผลิตตามมาตรฐาน มอก 11-2531 จึงเป็นสายไฟฟ้าทองแดง ที่หุ้มฉนวนชนิดอื่น ที่นอกเหนือไปจากฉนวนชนิด PVC เช่น
ครอสลิงค์โพลีเอททีลีน (Cross-Linked Polyethylene ) นิยมเขียนเป็นอักษรย่อว่า XLPE มีคุณสมบัติพิเศษคือ ทนอุณหภูมิได้สูง และมีความแข็งทนต่อแรงเสียดสีได้ดี
สายที่ผลิตตามมาตรฐาน JIS C-3606 เป็นสายชนิดทนแรงดัน 600 V เป็นตัวนำทองแดง อุณหภูมิใช้งานของฉนวน 90 องศาเซลเซียส เรียกว่าสายไฟฟ้าชนิด CV ซึ่งมีขนาดกระแสสูงกว่าสายตาม มอก. 11-2531 ที่ขนาดเดียวกันและวิธีการเดินสายเหมือนกัน เนื่องจากสายมีอุณหภูมิใช้งาน 90 องศาเซลเซียส ขั้วสายและเครื่องอุปกรณ์ที่สายชนิดนี้ต่ออยู่ ก็ต้องเป็นนิดที่ออกแบบให้ใช้งานได้ 90 องศาเซลเซียส ด้วยเช่นกัน( หรือทำการลดค่าของกระแสของสายไฟฟ้าลงมา ) สายชนิดนี้มีทั้ง แกนเดียวและหลายแกน ( Multi-Core ) มีเปลือกนอก เพื่อป้องกันความเสียหาย ทางกายภาพ จึงใช้งานได้ทั่วไป รวมทั้งใช้เดินฝังดินโดยตรง

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ตัวควบคุมสารทำความเย็น

เรื่อง เครื่องควบคุมการไหลของสารทำความเย็น (Expansion Valve)
เครื่องควบคุมการไหลของสารทำความเย็น เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของระบบทำความเย็นชนิดอัดไอ
หน้าที่ของอุปกรณ์มีดังนี้คือ
- เป็นเครื่องควบคุมสารทำความเย็นจากของเหลว (Liquid line) ไปยังอีวาโปรเรเตอร์
  ในอัตราส่วนที่สัมพันธ์กับการระเหยของสารความเย็นเหลวที่เกิดขึ้นในอีวาโปรเรเตอร์
- ควบคุมความแตกต่างของความดันระหว่างความดันสูงกับความดันต่ำของระบบให้พอดีกับการระเหย
  ของความเย็นได้สนความดันต่ำนี้อีวาโปรเรเตอร์และในขณะเดียวกันไอสารทำความเย็นที่ออกจาก
  เครื่องอัดก็ควบแน่นที่ความดันสูงที่เครื่องควบแน่น
เครื่องควบคุมการไหลของสารทำความเย็นมีหลายแบบด้วยกัน คือ
1. วาล์วขยายตัวปรับด้วยมือ (Hand expansion valve)
2. วาล์วขยายตัวแบบอัตโนมัติ (automatic expansion valve )
3. วาล์วขยายตัวแบบอัตโนมัติ เทอร์โมสะแตติค (thermostatic expansion valve )
4. ท่อแคพิลลารี (capillary tube)
5. วาล์วลูกลอยความดันต่ำ (low Pressure float valve)
6. วาล์วลูกลอยความดันสูง (high Pressure float valve)

ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ

เครื่องปรับอากาศสามารถแยกตามระบบการทำงานสามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ตามการติดตั้ง คือ

1. ส่วนที่ติดตั้งภายในบ้าน (Indoor Unit) ทำหน้าที่ดูดซับความร้อนทำให้อากาศภายในห้องเย็นลงหรือเรียกว่า คอยล์เย็น (Evaporator) ประกอบด้วยท่อ แผงคอยเย็น พัดลม และอุปกรณ์วัด และควบคุมอุณหภูมิห้อง
2. ส่วนที่ติดตั้งภายในบ้าน (Outdoor Unit) ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส่วนที่ทำหน้าที่ในการระบายความร้อนหรือที่เรียกว่า คอยล์ร้อน (Condensing), ส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนของน้ำยาทำความเย็นหรือที่เรียกว่า คอมเพรสเซอร์ และน้ำยาแอร์ และอีกส่วนทำหน้าที่ในการลดความดัน และอุณหภูมิของน้ำยาแอร์หรือที่เรียกว่า อุปกรณ์ลดความดัน (Throttling Device)


หากแบ่งตามหน้าที่การทำงาน สามารถแบ่งส่วนประกอบของแอร์ออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

1. คอยล์เย็น (Evaporator)
เป็นชุดของแอร์ที่ถูกติดตั้งภายในห้องหรืออาคารประกอบด้วยแผงคอยล์เย็นที่ติดกับส่วนท่อน้ำยาแอร์ที่บรรจุน้ำยาแอร์ไหลเวียนภานในส่งต่อไปยังคอมเพรสเซอร์โดยขณะไหลเวียนผ่านท่อจะมีพัดลมคอยดูดอากาศภายในห้องจากด้านล่างเครื่องผ่านท่อ และแผงคอยล์เย็นเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความร้อน และผ่านอากาศเย็นออกมายังช่องแอร์ในด้านปลาย มีส่วนประกอบ ดังนี้

     1.1 แผงคอยล์เย็น มีรูปร่างเป็นเส้นท่อขดไปมาตามความยาวของเครื่อง และจะมีแผ่นครีบอลูมิเนียมบางๆ หุ้มขดท่อเหล่านั้นอยู่ แผงขดท่อจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อถอดหน้ากากส่งลม หรือหน้ากากรับลมกลับของเครื่องออก
   
     1.2 มอเตอร์พัดลมคอยล์เย็น มีใบพัดลมคอยล์เย็นเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการเคลื่อนที่ของลม โดยได้กำลังมาจากมอเตอร์ไฟฟ้าเหนี่ยวนำชนิด 1 เฟส ทำหน้าที่กระจายลมเย็นให้กับพื้นที่ที่ต้องการการปรับอากาศ
     1.3 ชุดควบคุมระบบปรับอากาศ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับควบคมการทำงานของเครื่องปรับอากาศ โดยทั่วไประบบปรับอากาศรุ่นใหม่ๆ จะใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาควบคุมระบบการทำงาน ซึ่งการควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์จะมีความเที่ยงตรงสูงกว่าแบบเก่าที่ใช้กลไกทางกลในการควบคุม
     1.4 อุปกรณ์ควบคุมแรงดันสารทำความเย็น การควบคุมปริมาณสารความเย็นในระบบปรับอากาศแบบแยกส่วนใช้การควบคุมโดยท่อรูเข็ม (Capillary Tube – Cap. Tube) โดยติดตั้งระหว่างคอนเดนเซอร์กับอีวาปอเรเตอร์ ทำหน้าที่ลดแรงดันและควบคุมปริมาณสารทำความเย็นก่อนเข้าคอยล์เย็น

2. คอยล์ร้อน (Condensing)
เป็นชุดของแอร์ที่ถูกติดตั้งภายนอกอาคารเหมือนกัน ประกอบด้วยแผงคอยล์ร้อนหรือที่เรียกว่า อุปกรณ์ลดความดัน (Throttling Device) มีลักษณะเป็นท่อทองแดงขนาดเล็ก ขดเป็นแผงไปมาอยู่ด้านหลังถัดจากใบพัดลม และอีกส่วนจะเป็นพัดลมที่ช่วยในการระบายความร้อนของน้ำยาแอร์ ทำให้น้ำยาแอร์มีอุณหภูมิลดลง แต่ความดันคงที่ก่อนไหลเวียนเข้าสู่แผงคอยล์เย็นเพื่อลดอุณหภมิในห้องต่อไป
     2.1 คอมเพรสเซอร์ และน้ำยาแอร์ (Evaporator)  
เป็นส่วนอุปกรณ์ที่ถูกติดตั้งนอกอาคารด้านข้างพัดลมระบายความร้อน ทำหน้าที่ในการเก็บ และควบคุมการไหลเวียนของน้ำยาแอร์ในระบบ และทำให้น้ำยาแอร์มีอุณหภูมิ และความดันสูงขึ้นก่อนส่งผ่านไปยังตามท่อของส่วนคอยล์ร้อนต่อไป
4-1
     2.2 แผงคอยล์ร้อน มีลักษณะเป็นท่ออลูมิเนียมหรือทองแดงขนาดเล็ก ขดไปมาเป็นแผงอยู่ภายใน คีบอลูมิเนียมแผ่นเล็กๆเรียงซ้อนกัน ทำหน้าที่เป็นพื้นที่สำหรับระบายความร้อนของสารทำความเย็นที่ส่งผ่านมาจากคอมเพรสเซอร์ 
     2.3 มอเตอร์พัดลมคอยล์ร้อน เป็นมอเตอร์เหนี่ยวนำ 1 เฟส ทำหน้าที่เป็นตัวระบายความร้อนให้กับสารทำความเย็นที่มีสถานะเป็นก๊าซ ให้มีสถานะเป็นของเหลวเพื่อส่งผ่านเข้าสู่อุปกรณ์ควบคุมแรงดันสารทำความเย็น